PRO POWER 8+ Isolate AC/DC power supply

PRO POWER 8+ คือตัวจ่ายไฟที่มีคุณสมบัติแบบ Isolate นั่นหมายถึงช่องจ่ายไฟทุกช่องแยก

กราวด์อิสระจากกัน* ช่วยลดปัญหาเสียงฮัมและจี่ที่เกิดจาก ground loop เมื่อต้องใช้เอฟเฟกต์

ที่กินกระแสไฟมากๆ ร่วมกัน

โดยตัว PRO POWER 8+ จ่ายกระแสไฟ DC ได้สูงสุดถึง 400ma. ต่อ 1 ช่อง (เฉพาะช่องที่ 5 และ 6) ซึ่งรองรับเอฟเฟกต์ที่กินกระแสสูงๆ มากมายเช่น TC.Electronic, Strymon, Line6, Eventide Tonebone เป็นต้น ส่วนช่อง 1-2 จ่ายได้ช่องละ 100ma. ช่อง 3-4 จ่ายได้ 150ma.
เพียงพอต่อเอฟเฟกต์ก้อนทั่วไปจนถึงมัลติเอฟเฟกต์รุ่นเล็กๆ ของ Korg, Zoom,Boss
ก็สามารถใช้งานได้เช่นเดียวกัน

นอกจากช่องจ่ายไฟแบบ DC ที่มีถึง 6 ช่องแล้ว PRO POWER 8+ ยังมีช่องจ่ายไฟแบบ AC 1000ma. ที่สามารถจ่ายให้กับเอฟเฟกต์ที่ต้องการไฟแบบ AC เช่น Mesa Vtwin, H&K Tubeman series,Whammy รุ่นเก่า, Ibanez Tubeking, Line6 DL4/MM4, M9 หรือแม้แต่
เอฟเฟกต์ Demonizer ที่ต้องการไฟกระแสสูงก็ยังสามารถจ่ายได้ ซึ่งไม่มีตัวจ่ายไฟรุ่นไหนทั้ง
ไทยและต่างประเทศสามารถทำได้แบบนี้ด้วยราคาที่เป็นธรรมกับผู้ใช้งาน

PRO POWER 8+ ยังมาพร้อมกับสายไฟแบบต่างๆ ที่รองรับ effect ในท้องตลาดมากกว่า 90% ด้วยชุดสายแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายแบบ DC 2.1 negative center (Boss standard) หรือจะเป็นสายแบบกลับขั้วต่างๆ ทั้ง 2.1, 2.5, 3.5 mm ก็มีให้ครบครันรวมถึงสายที่สามารถเพิ่มไฟจาก 9v เป็น 18v โดยการรวมช่อง 9v สองช่องเข้าด้วยกัน ซึ่งเรียกว่าสาย Y cable double voltage ซึ่งคุณสมบัติแบบนี้มีเฉพาะในตัวจ่ายไฟแบบ Isolate เท่านั้น

*ยกเว้นช่องที่ 7/8 เป็นไฟ AC ใช้กราวด์ร่วมกันและใช้ได้ครั้งละ 1 ช่องเท่านั้น

คุณสมบัติของ PRO POWER 8+
INPUT : 220-240V AC 50/60 Hz

OUTPUT :
4 x 9 volt DC 100-150ma.
1 x 9/12 volt DC 400ma.
1 x 9/12/15 volt DC 400 ma.
1 x 9/12 volt AC 1000 ma.

FUSE : 250 volt 500ma.
TRANSFORMER TYPE : TOROIDAL
DIP SWITCH : เลือกปรับแรงดันไฟช่องที่ 5 และ 6

3 years warranty
ให้คุณมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นกับการรับประกันสินค้าตลอดอายุการใช้งาน* เนื่องจาก
อุปกรณ์จ่ายไฟเป็นอุปกรณ์ที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับแรงดันไฟสูงจึงต้องการความคงทน
แข็งแรงมากเป็นพิเศษ แต่หากมีปัญหาเมื่อไหร่ลูกค้าก็ยังสามารถนำมาเคลม
ประกันได้ตลอดอายุการใช้งานเลยทีเดียว แตกต่างจากแบรนด์จากต่างประเทศ
ที่หากมีการเสียหายหรือชำรุดเมื่อไหร่มักจะต้องทิ้งหรือหาอะไหล่มาซ่อมแซม
หรือเปลี่ยนแทนไม่ได้กันเลยทีเดียว